หน้าเว็บ

วันพฤหัสบดีที่ 22 ตุลาคม พ.ศ. 2552

เรื่องเล่าของ "เหล้า"

วันนี้มีเรื่อง"เหล้า"มาเล่าให้ฟังค่ะ ได้รับมาเป็น forward mail เลยเอามาแบ่งปันกันอ่าน

ว่าด้วยเรื่องของ"เหล้า" หรือ "น้ำสีเหลืองอำพันที่กินแล้วเมา"



ปรัชญาว่าด้วยการร่ำสุรา


"คนไทยกินข้าวเจ้า


คนลาวกิน ข้าวเหนียว


คนจีนกินก๋วยเตี๋ยว


ส่วนฝรั่งเค้าก็ขนมปัง "

มนุษย์แต่ละชาติ ภาษา ต่างมีวิธีการแปรรูปพืชที่ให้แป้งมาบริโภคได้ต่างชนิดกันไป แต่ทำไม ทุกชนชาติ ต่างรู้จักที่จะแปรรูปยอดข้าวชนิดหนึ่ง ให้มาเป็นน้ำใสๆที่เรียก ว่าสุรา ได้อย่างเหมือนกันเป๊ะ อย่างกับมีการนัดแนะกันไว้ก่อน


“อันชนใด ไม่มีสุราทาน ในสันดานเป็นคนชอบกลนัก

อีกชนใดดื่มสุราไม่มีกับ ชนชาตินั้น อาภัพ อัปลักษณ์เอย”


สุรา รสชาติคล้ายกันทั้งโลก คุณสมบัติก็ เหมือนกัน คือ กินแล้วเมาเหมือนกันหมด ( ไม่เมาคงต้องไปหาหมอ นะครับ อย่าลืมถามตอนตรวจสุขภาพประจำปี) คนที่ดื่มสุรามากๆ มักจะมีคอแข็ง แกร่งประดุจเหล็กไหล เวลาตายไปตกนรก โดนยมบาลเอาน้ำร้อนกรอกปากก็ไม่สะทก สะท้าน เนื่องจากตอนเป็นคนเตรียมการมาดี ผมขอเสนอว่า นรกขุมนี้ควร เปลี่ยนวิธีการลงโทษ เป็นแบบใหม่ การสังสรรค์ในหมู่ชายฉกรรจ์ ถ้าขาด สุราไป ก็คล้ายกับการสั่งเกาเหลาไม่เอาน้ำ การสนทนาในวงเหล้า จะทวีความ มันส์ เมื่อสุราเริ่มทยอยเข้าปากไป ไอ้คนที่เพิ่งรู้จักกัน ก็จะสนิทดั่ง ญาติมิตรชนิดตายแทนกันได้ การพูดจาก็จะดังระงมคล้ายมีไมค์มาจ่อปาก และ อาการทั้งหมดจะสงบลง เมื่อบิลเก็บตังค์มา การดื่มสุราเอาสนุก บางทีก็ไม่จำ เป็นต้องเมา โดยเฉพาะผู้ชาย ยามเมาแล้วไม่ค่อยน่าคบ เพราะมักมีวิญญาณ โผน กิ่งเพชร เข้าสิง อยากบู๊ท่าเดียว พวกนี้อันตราย ส่วนรายไหนเมาแล้ว ใจป้ำ ควักตังค์จ่ายเป็นระวิง อันนี้ท่านว่า น่าคบ





ผู้หญิงก็คน ใช่ว่าจะเมา ไม่เป็น พอเมาถึงจุด จะมีคำพูดประจำว่า “ชั้นไม่มาว แต่ไม่เหมือนเดิม ” ส่วนคำพูดแรกหลังจากถูกจีบ คือ “นายมารถอะไร” การดื่มสุราในงานวันเกิด เจ้าภาพจะกลายเป็นบุคคลสำคัญ จะตดจะเรอก็ไม่มีใครว่า พูดจาอะไรก็ถูกก็ดีไป หมด แต่คนเป็นเจ้าภาพมักไม่ค่อยสนุก เพราะต่างรู้ชะตากรรมว่า มื้อนี้กู แน่ๆ สิ่งที่ขาดไม่ได้ในการดื่มสุรา ก็คือการชนแก้ว อันนี้ไม่เหมาะกับ พวกมือตีนหนัก แก้วอาจร้าวบาดปากได้ การชนแก้วอย่างถูกวิธี อาจทำให้คุณได้ เบอร์สาวโต๊ะข้างๆ


สูตรต่างๆ ในการมิกซ์สุรา


4-4-2 ( โซดา-น้ำ- สุรา ) เป็นสูตรเฉพาะของเฟอร์กี้ หลังปึ้ก กลางเปรี๊ยะ หน้าหวดเพี้ย เหมาะ สำหรับท่านที่ดื่มเรื่อยๆ หวังเก็บแต้มเสมอนอกบ้าน

4-3-3 ( โซดา-น้ำ- สุรา ) เป็นสูตรเด็ดของแวนเกอร์ หลังขาด กลางขึง หน้าตะบึง เหมาะสำหรับท่านที่ ดื่มเอามันส์ หวังเก็บสามแต้มเต็ม

3-5-2 ( โซดา-โค้ก-สุรา ) เป็นสูตรลับของ ราฟาเอล หลังเสียบ กลางซ่า หน้าซิ่ง เหมาะสำหรับสตรีและกระเทย

4-4-2 defense ( น้ำแดง-เหล้าขาว-ลิโพ ) อันนี้โค้ชหรั่ง ช้อบชอบ ทานง่าย ประหยัดงบ และส่งเสริมเอกลักษณ์ไทยๆ



สุรา มีชื่อสามัญว่า เหล้า คำว่า สุรา อาจจะมา จาก สุระ ที่แปลว่า ยิ่งใหญ่ เพราะเห็นใครๆสุราเข้าปากไป มักจะยิ่งใหญ่คับ โต๊ะเกินกว่าบุคคลธรรมดา ร่างกายของคนเรา ทางพระเรียกว่า อินทรีย์ธาตุ รับความรู้สึกผ่านทางทวารทั้งห้า คือ ตา หู จมูก ลิ้น และกาย ( ปัญจทวาร) โดยมีประสาท เป็นผู้สั่งการ สิ่งที่เรารับเข้าทางทวารทั้งห้า ทางพระเรียกว่า ทุกขัง คือ สภาพจริงที่ทนได้ยาก การดื่มสุราเข้าไปมากๆ จะทำให้ประสาทสั่งการได้ช้า ลง เพราะสุรามีฤทธิ์กดประสาท ส่งผลให้ทวารทั้งห้าทำงานได้ช้าลงไปด้วย คนเราก็รับทุกขังได้น้อยลง เมื่อคนเราขาดทุกขัง ก็เหมือนขาดสภาพจริงที่ทนได้ ยาก เหลือแต่จิตเปล่าๆ เวลาสนุกก็สนุกสุดๆ ทุกข์ก็ทุกข์สุดๆ รวมทั้ง โมโห โกรธ กล้า ก็จะมากกว่าคนในภาวะปกติ



โกวเล้ง ปราชญ์แห่งการ สุรา ยังกล่าวไว้ว่า



“ข้ามิได้พึงใจในรสชาดสุรา แต่ข้าพึงใจในบรรยากาศของการร่ำสุรา"


2 ความคิดเห็น:

tidtiporn tidtichumrernporn กล่าวว่า...

อืม....
จะลิ้มลองอย่างที่ว่ากันไว้
แบบว่าขอเป็นสูตร 4-0-1 (โซดา น้ำ สุรา) แทนได้ป่ะ
น่าจะคล่องคอกว่าอ่ะจ่ะ

Asst.prof.Pikul กล่าวว่า...

ได้รู้จักสุราเพิ่มขึ้น หลังจากที่ไม่ค่อยสนิทค่ะ

แสดงความคิดเห็น

Creative Commons License
ผลงานนี้ ใช้สัญญาอนุญาตของครีเอทีฟคอมมอนส์แบบ แสดงที่มา-ไม่ใช้เพื่อการค้า-อนุญาตแบบเดียวกัน 3.0 ต้นฉบับ.
ท่านสามารถนำเนื้อหาไปใช้ แสดง ดัดแปลง เผยแพร่ โดยต้องอ้างอิงที่มา ห้ามใช้เพื่อการค้า และต้องใช้สัญญาอนุญาตชนิดเดียวกันนี้ไปกับงานดัดแปลงต่อยอดที่เผยเผยแพร่ต่อ
Payap University